“ไฟไหม้” เป็นเหตุฉุกเฉินที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ซึ่งอาจสร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งเหตุการณ์ไฟไหม้ยังเป็นภัยที่น่ากลัวเพราะมีการลุกลามอย่างรวดเร็ว การรู้วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้ที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรเรียนรู้เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง ซึ่งทางซีคอมได้รวบรวม 8 วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้อย่างปลอดภัย พร้อมคำแนะนำในการรับมือกับสถานการณ์ไฟไหม้โดยไม่ตื่นตระหนกมาฝากกัน
สาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ ไม่ใช่แค่การถูกเปลวไฟเผาไหม้ แต่มักเกิดจากการสำลักควันไฟและสูดดมสารพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ของวัสดุต่าง ๆ ภายในอาคารหรือบ้านเรือน ซึ่งทำให้ขาดอากาศหายใจและหมดสติ จากสถิติพบว่า กว่า 70% ของผู้เสียชีวิตจากไฟไหม้ มีสาเหตุมาจากการสูดดมควันพิษ ไม่ใช่จากเปลวไฟโดยตรง การเกิดไฟไหม้มักมีสาเหตุมาจากความประมาท การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน การทิ้งก้นบุหรี่ที่ไม่ดับสนิท หรือการลืมปิดแก๊สหุงต้ม การรู้จักอันตรายจากไฟไหม้และเข้าใจวิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้องในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งในที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือสถานที่สาธารณะต่าง ๆ
การเตรียมพร้อมรับมือกับไฟไหม้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอดจากไฟไหม้ได้มากขึ้น ต่อไปนี้เป็นวิธีการเตรียมความพร้อมที่ควรทำก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที
ควรติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันและสัญญาณเตือนไฟไหม้ในพื้นที่สำคัญของบ้านหรือที่พักอาศัย อย่างน้อยชั้นละ 1 เครื่อง โดยเฉพาะบริเวณทางเดิน ใกล้ห้องนอน และใกล้ห้องครัวซึ่งเป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ ควรตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้เป็นประจำทุก 1-3 เดือน และเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเตือนภัยตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้มีเวลาในการอพยพและขอความช่วยเหลือได้ทันท่วงที เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น
การติดตั้งถังดับเพลิงในที่พักอาศัยเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นส่วนสำคัญของวิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้ โดยควรเลือกประเภทที่เหมาะสมกับพื้นที่ เช่น ถังดับเพลิงประเภท A-B-C ที่สามารถดับไฟได้หลายประเภททั้งไฟที่เกิดจากวัสดุทั่วไป น้ำมัน และอุปกรณ์ไฟฟ้า ควรติดตั้งไว้ในจุดที่หยิบใช้ได้สะดวก เช่น ในห้องครัว และทางออกหลักของบ้าน สมาชิกในบ้านควรเรียนรู้วิธีการใช้งานแบบ “ดึง-ปลด-กด-ส่าย” คือ ดึงสลักนิรภัย ปลดสายฉีดออกจากที่ยึด กดคันบีบให้สุด และส่ายหัวฉีดไปที่ฐานของกองไฟ ไม่ใช่ที่เปลวไฟ นอกจากนี้ควรวางแผนเส้นทางหนีไฟและกำหนดจุดนัดพบเมื่อต้องอพยพออกจากอาคารในกรณีที่เกิดไฟไหม้รุนแรง
เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ การตั้งสติและรู้จักวิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้ที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต ตามสถิติของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้ที่รู้วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้อย่างถูกต้องมีโอกาสเอาชีวิตรอดมากกว่าคนที่ไม่มีความรู้ถึง 3 เท่า ต่อไปนี้คือ 8 วิธีที่ควรปฏิบัติเมื่อเผชิญกับเหตุไฟไหม้
เมื่อพบเห็นไฟไหม้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก ประเมินความรุนแรงของเหตุการณ์ หากอยู่ในอาคารสาธารณะให้รีบกดสัญญาณเตือนไฟไหม้ และแจ้งคนรอบข้างให้ทราบถึงเหตุฉุกเฉิน หากอยู่ในบ้าน ให้แจ้งสมาชิกทุกคนในบ้านทันที ถ้าไฟยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและคิดว่าควบคุมได้ ให้ใช้ถังดับเพลิงระงับเหตุ แต่ถ้าไฟลุกลามแล้วให้รีบอพยพทุกคนออกจากบ้านหรืออาคารและโทรแจ้ง 199 ทันที
ควันไฟเป็นอันตรายมากกว่าเปลวไฟ ให้หาผ้าชุบน้ำปิดจมูกและปากเพื่อป้องกันการสูดดมควันพิษ หรือใช้ถุงพลาสติกใสอัดอากาศบริสุทธิ์คลุมศีรษะ ถ้าเป็นไปได้ ให้ชุบผ้าผืนใหญ่หรือผ้าห่มด้วยน้ำเพื่อคลุมร่างกาย ซึ่งจะช่วยป้องกันความร้อนและลดการสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรง หากอยู่ในบ้านหรือที่พักอาศัย ควรเตรียมผ้าเช็ดตัวหรือผ้าห่มไว้ใกล้แหล่งน้ำเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
หากต้องเปิดประตูเพื่อหนีออกจากห้อง ให้ใช้หลังมือสัมผัสผนังและลูกบิดประตูก่อนเปิด ถ้ารู้สึกร้อนแสดงว่ามีไฟอยู่อีกฝั่ง ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุดตามช่องว่างรอบประตู ปิดเครื่องปรับอากาศและพัดลมระบายอากาศ แล้วหาทางออกอื่น เช่น หน้าต่าง หรือโทรแจ้งตำแหน่งที่คุณติดอยู่กับเจ้าหน้าที่ สำหรับบ้านพักอาศัยชั้นเดียว การออกทางหน้าต่างมักเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย แต่ในอาคารสูงต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยด้วย
ควันไฟมักลอยสูงขึ้น ทำให้อากาศบริสุทธิ์เหลืออยู่ใกล้พื้นประมาณ 30 เซนติเมตร เมื่อต้องเคลื่อนที่ในพื้นที่ที่มีควัน ให้หมอบคลานต่ำหรือย่อตัวให้ใกล้พื้นมากที่สุด เพื่อให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์มากขึ้นและลดการสูดดมควันพิษ วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีสติและสามารถหาทางออกได้ชัดเจนกว่า ทั้งในบ้านพักอาศัยหรืออาคารสาธารณะ ควรจำไว้ว่าการเคลื่อนที่ในระดับต่ำจะช่วยให้มองเห็นป้ายทางออกได้ชัดเจนกว่า
เมื่อต้องอพยพออกจากอาคารสูง ห้ามใช้ลิฟท์เด็ดขาด เพราะไฟอาจดับและทำให้ติดอยู่ในลิฟท์ได้ ให้ใช้บันไดหนีไฟซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะ มีระบบระบายอากาศที่ดีและผนังทนไฟ หากไม่สามารถลงบันไดได้เนื่องจากไฟลุกท่วมเส้นทาง ให้ขึ้นไปที่ดาดฟ้าและส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ สำหรับบ้านที่มีหลายชั้น ควรใช้บันไดหลักในการลงสู่ชั้นล่าง และหากเป็นไปได้ควรมีบันไดหนีไฟสำรองหรือบันไดพกพาติดไว้ที่ระเบียงหรือหน้าต่างชั้นสอง
ถ้าไฟลุกติดเสื้อผ้าหรือร่างกาย ห้ามวิ่งโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดลมพัดและไฟลุกแรงขึ้น ให้ใช้วิธี “หยุด-นอน-กลิ้ง” คือ หยุดวิ่งทันที นอนราบลงกับพื้น และกลิ้งตัวไปมาจนกว่าไฟจะดับ วิธีนี้ใช้ได้ผลดีทั้งในบ้านและสถานที่อื่นๆ หลังจากนั้นให้รีบถอดเสื้อผ้าที่ไหม้ออก ระวังอย่าดึงแรงเพราะอาจทำให้ผิวหนังลอกออกมาด้วย ถ้าอยู่ใกล้แหล่งน้ำ เช่น อ่างล้างจานหรือห้องน้ำ อาจใช้น้ำราดบริเวณที่ไฟติดเพื่อดับไฟได้เช่นกัน
ระหว่างการอพยพหนีไฟ หากพบผู้ประสบภัยที่ต้องการความช่วยเหลือ ให้ช่วยเหลือตามกำลังความสามารถ โดยไม่เสี่ยงเกินไป ถ้าพบผู้ที่หมดสติจากการสูดดมควันไฟ ให้พยายามลากหรือพยุงออกมา แต่หากไม่สามารถช่วยได้ ให้จำตำแหน่งและแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีที่ออกมาได้ วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้ที่ดีต้องนึกถึงผู้อื่นด้วย โดยเฉพาะในบ้านหรือที่พักอาศัย ควรมีการวางแผนช่วยเหลือล่วงหน้ากับสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะกับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย และสัตว์เลี้ยง ที่สำคัญ เมื่อหนีออกมาจากที่เกิดไฟไหม้ได้แล้ว อย่ากลับเข้าไปในบ้านหรืออาคารที่เกิดเหตุไฟไหม้ซ้ำเพื่อช่วยเหลือหรือนำทรัพย์สินออกมา
หนึ่งในวิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้ที่สำคัญ คือ การรู้จักหลีกเลี่ยงพื้นที่อันตราย ห้ามวิ่งหนีไฟเข้าไปในห้องน้ำ ห้องใต้ดิน หรือพื้นที่อับอากาศอื่น ๆ เพราะเป็นจุดที่ยากต่อการช่วยเหลือ และน้ำในห้องน้ำไม่เพียงพอต่อการดับไฟขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ไม่ควรวิ่งขึ้นไปยังชั้นบนของอาคารหรือบ้านเมื่อเกิดไฟไหม้ เนื่องจากไฟและควันจะลุกลามขึ้นด้านบนเสมอ เว้นแต่กรณีที่ไม่สามารถลงสู่ชั้นล่างได้ ในบ้าน 2 ชั้น ควรมีอุปกรณ์หนีไฟจากชั้นบน เช่น บันไดเชือกหรือบันไดพับได้ที่สามารถใช้ได้ในกรณีฉุกเฉินเมื่อเกิดไฟไหม้
แม้วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้ที่ถูกต้องเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตในยามฉุกเฉิน แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการป้องกันที่ต้นเหตุ การติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะจาก SECOM ที่มีเซนเซอร์ตรวจจับควัน พร้อมระบบแจ้งเตือนไฟไหม้ ก็เป็นอีกทางที่ช่วยให้คุณมีเวลาเพียงพอในการอพยพ และใช้วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้ได้อย่างปลอดภัย โดยปกป้องทั้งชีวิตและทรัพย์สินอันมีค่าของคุณได้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel. 02-026-6593 Email : sales@secom.co.th Line : @secomthailand