10 วิธีการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

10 วิธีการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

หนึ่งในปัญหาหนักใจของวัยทำงาน และลูกหลานในยุคนี้ ก็คือการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน เนื่องจากไม่สามารถแบ่งเวลาจัดสรรชีวิตได้อย่างลงตัว จึงไม่รู้ว่าวิธีดูแลผู้สูงอายุที่ดีต้องเป็นแบบไหน วันนี้ ซีคอม มีแนวทางการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านที่ดีมาฝาก พร้อมกับแนะนำเทคโนโลยีดูแลผู้สูงอายุในปัจจุบัน ที่สามารถช่วยคุณดูแลคนที่คุณรักได้แม้ไม่ว่างอยู่บ้านตลอดเวลา

ความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

เพราะบ้านคือสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงวัย เนื่องจากเป็นพื้นที่คุ้นเคยที่พวกเขาใช้ชีวิตมานาน การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงช่วยให้พวกเขารู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และมีความสุขมากกว่าการส่งไปอยู่สถานดูแล แต่การดูแลให้ดีนั้นต้องเข้าใจความต้องการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมการเรียนรู้วิธีดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงสำคัญ

10 วิธีดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเพื่อสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่ดี

เมื่อรู้ถึงความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านไปแล้ว เรามาดู 10 วิธีดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ที่ลูกหลานต้องให้ความสำคัญกันต่อดีกว่า

1. ดูแลด้านอาหารการกิน

เมื่อเข้าสู่วัยชรา ระบบย่อยอาหารจะทำงานช้าลง การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจึงต้องใส่ใจเรื่องอาหารเป็นพิเศษ ควรเลือกเมนูที่มีประโยชน์ ย่อยง่าย เคี้ยวง่าย เน้นปลา ผัก และผลไม้ตามฤดูกาล หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด และอาหารไขมันสูง จัดมื้ออาหารให้เป็นเวลา และคอยสังเกตปริมาณที่ทานในแต่ละมื้อให้ดี

2. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

น้ำหนักตัวที่มากเกินไป เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้สูงอายุเคลื่อนไหวลำบาก เสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อม และโรคอื่น ๆ ตามมา วิธีดูแลผู้สูงอายุที่ดีคือการชั่งน้ำหนักสม่ำเสมอ จัดอาหารให้เหมาะสมกับกิจกรรมในแต่ละวัน และส่งเสริมให้ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน

3. ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อม

จิตใจที่แจ่มใส มักเริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมที่ดี การตกแต่งบ้านให้ดูน่าอยู่ มีแสงสว่างที่เพียงพอส่องถึง และดูโล่งโปร่งสบาย จะช่วยปรับอารมณ์ให้ผู้สูงอายุมีความสุขมากขึ้น เมื่อเทียบกับบ้านที่ดูมืด และไม่มีไฟส่องสว่างในการอยู่อาศัย

4. สร้างกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้เป็นประจำ

ความเหงาเป็นปัญหาใหญ่ของผู้สูงวัย การมีกิจกรรมทำร่วมกันจะช่วยให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่า และมีความสุข เช่น ทานข้าวพร้อมกัน ดูรายการโทรทัศน์ที่ชอบด้วยกัน เล่นเกม ทำสวน หรือทำงานฝีมือ แม้จะเป็นกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ความสุขที่ได้นั้นยิ่งใหญ่เสมอ

5. พาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส เลือกกิจกรรมที่เหมาะกับวัยและสภาพร่างกาย เช่น เดินเล่นในสวน ว่ายน้ำ โยคะ หรือรำไทเก๊ก ควรทำอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 15-30 นาที ที่สำคัญต้องมีผู้ดูแลอยู่ด้วยเพื่อความปลอดภัย

6. จัดบ้านให้เป็นระเบียบและไม่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ

อุบัติเหตุในผู้สูงวัยมักเกิดจากการลื่นล้มหรือสะดุด จัดบ้านให้เป็นระเบียบ ไม่วางของเกะกะ ติดไฟให้สว่างทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณบันไดและทางเดิน เลือกใช้พรมกันลื่นในห้องน้ำ และติดราวจับให้ผู้สูงอายุได้พยุงตัว เพื่อป้องกันอุบัติไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้

7. ดูแลความสะอาดภายในบ้านให้ดี

สุขอนามัยที่ดีช่วยป้องกันการเจ็บป่วย ทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ เช็ดถูพื้น กำจัดฝุ่น ซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนบ่อย ๆ จัดการขยะทุกวัน เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ไม่ให้อับชื้น บ้านที่สะอาดไม่เพียงดีต่อสุขภาพ แต่ยังช่วยให้ผู้สูงอายุอารมณ์ดี สดชื่นขึ้นด้วย

8. จัดทริปท่องเที่ยวตามความเหมาะสม

การได้ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา เลือกสถานที่ที่เดินทางสะดวก ไม่ไกลเกินไป อาจเป็นวัด สวนสาธารณะ หรือห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน แต่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย หลีกเลี่ยงช่วงที่คนพลุกพล่าน และควรมีผู้ดูแลไปด้วยเสมอ

9. หมั่นสังเกตความผิดปกติด้านสุขภาพ

การเฝ้าระวังสุขภาพแต่เนิ่น ๆ ช่วยป้องกันปัญหารุนแรงในภายหลัง สังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดเมื่อยผิดปกติ หรือมีอารมณ์แปรปรวน หากพบความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรง

10. ตรวจสุขภาพประจำปีไม่ให้ขาด

การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ ช่วยค้นหาปัญหาสุขภาพตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จัดตารางนัดหมายแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และพาไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เก็บประวัติการรักษาและผลตรวจไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง

11. วางระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน

SECOM Smart Security ระบบความปลอดภัยในบ้านครบวงจร

แม้การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจะเป็นภาระที่หนักหน่วง แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่จาก SECOM ที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของลูกหลานได้ การดูแลผู้สูงอายุที่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยระบบ Smart Security Care ที่ครอบคลุมการดูแลในหลาย ๆ เรื่อง ดังนี้

  • กล้องวงจรปิดและระบบเซ็นเซอร์กันขโมย : เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย ป้องกันขโมยเข้าบ้านในขณะที่ผู้สูงอายุอยู่บ้านลำพัง และอาจจะไม่สามารถเดินตรวจตราดูโดยรอบเองได้สะดวก นอกจากนี้ยังช่วยสำรวจกิจกรรมที่ผู้สูงอายุทำในแต่ละวันได้อีกด้วย

ซึ่งนอกจากจะมีกล้องวงจรปิดและระบบเซ็นเซอร์กันขโมยแล้ว การเลือกระบบความปลอดภัย ที่มีผู้เชี่ยวชาญในการดูแลเรา 24 ชั่วโมง พร้อมคอยแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ก็ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ SECOM Smart Security ต่างจากระบบความปลอดภัยรูปแบบอื่น สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ กล้องวงจรปิด VS ซีคอม แบบไหนดีกว่า ?

  • อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ : เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้ และสามารถแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที ช่วยลดความเสียหายทั้งด้านร่างกายและทรัพย์สินของผู้สูงอายุ
  • ระบบล็อกอัตโนมัติ : เพื่อป้องกันเมื่อผู้สูงอายุหรือคนในบ้านลืมล็อกประตู ซึ่งระบบนี้สามารถตรวจเช็กประตูได้ทุกบาน พร้อมสั่งการได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลบ้านก็ตาม
  • เซนเซอร์ติดประตู : เพื่อเฝ้าระวังการเปิด-ปิดประตู และหน้าต่างจากเพื่อความปลอดภัย และสามารถใช้ในการดูกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุในการเข้าหรือออกห้อง เพื่อเช็กความผิดปกติจากระยะไกลได้
  • เซนเซอร์ตรวจจับน้ำรั่วแบบไร้สาย : เพื่อป้องกันการเกิดเหตุน้ำรั่วไหล ในเวลาที่ผู้สูงอายุลืมปิดก็อกน้ำ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดไฟช็อต หรือเปลืองค่าน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ได้
  • Medical Button : เพื่อแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะเมื่อต้องอาศัยอยู่คนเดียว หากเกิดอุบัติเหตุหกล้ม หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่น ๆ ก็สามารถกดปุ่ม Medical Button เพื่อแจ้งเหตุไปยังส่วนกลางได้โดยตรงและสามารถช่วยเหลือได้ทันที
  • Medical Box : เพื่อแจ้งเตือนการลืมรับประทานยาของผู้สูงอายุ ด้วยการติดเซนเซอร์ภายในกล่องยา ที่สามารถตรวจเช็กได้ตลอดเวลา หากไม่มีการเปิดกล่องเพื่อหยิบยาตามเวลา

และทั้งหมดนี้ ก็เป็นวิธีดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ที่ช่วยให้ลูกหลายที่มีภาระหน้าที่ สามารดูแลคนที่คุณรักที่บ้านได้อย่างอุ่นใจ แม้ว่าจะไม่มีเวลาอยู่ที่บ้านตลอดเวลา และสำหรับใครที่อยากรู้ว่าจุดไหนหรือเรื่องอะไรที่ควรรู้ในการดูแลผู้สูงอายุ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ เจาะลึกการดูแลผู้สูงอายุอย่างอุ่นใจ ด้วยผู้เชี่ยวชาญและ SECOM Smart Security Care

มาตรการลดความเสียหายจากเหตุการณ์ฉุกเฉิน

ทีมศูนย์ควบคุมและทีมปฏิบัติการของ SECOM ตอบสนองต่อเหตุการณ์ ผิดปกติอย่างฉับไว และจัดการเหตุโดยใช้มาตรการที่เหมาะสมที่สุดเพื่อลด ความเสียหายให้น้อยที่สุด

การให้บริการของ SECOM

บริการเฝ้าระวังสัญญาณ 24 ชั่วโมง

บริการจัดการเหตุฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

ทีมปฏิบัติการไปยังสถานที่เกิดเหตุ 24 ชั่วโมง

แจ้งเตือนทันทีเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติ

การตรวจสอบด้วยภาพ

มาตรการคลายความกังวลหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นแล้ว

สิ่งที่สำคัญ คือ การจัดเตรียมวิธีการที่ทำให้สถานที่ของลูกค้ากลับเข้าสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุดหลังจากเกิดเหตุฉุกเฉิน การเตรียมความพร้อมในกรณีเกิดความเสียหาย

  • การประกันภัยโจรกรรม
  • การบำรุงรักษาระบบที่ง่าย
  • การเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ใหม่
  • มีการอัพเดตซอร์ฟแวร์ตามระยะ
  • ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ทันสมัย

การให้บริการของ SECOM

การประกันภัยโจรกรรม คุ้มครอง
สูงสุด 200,000 บาท

ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์

อัพเดตซอร์ฟแวร์ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ

อุปกรณ์ทดแทนที่มีอยู่ในสต็อก

บริการตรวจสอบบำรุงรักษารายครั้ง

มาตรการป้องกันก่อนเกิดเหตุ

ทีมที่ปรึกษาความปลอดภัยของ SECOM ช่วยวางแผนระบบรักษาความ ปลอดภัยที่เหมาะสมตามการวิเคราะห์ความเสี่ยงของสถานที่ลูกค้า รวมทั้งชี้แจงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไขความเสี่ยงที่ชัดเจน

การให้บริการของ SECOM

ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัย

รับรองการวางแผนความปลอดภัย

การติดตั้งอย่างมืออาชีพ

การรับประกันการบริการ

รับรองการวางแผนความปลอดภัย